สื่อการเรียนการสอน (ภาษาอังกฤษ)
Filed under: หลัก | Leave a comment »
ให้นักเรียนจำแนกสารต่อไปนี้
น้ำแข็ง ข้าวเปลอก มะม่วง น้ำส้มคั่น น้ำเชื่อม ผงถ่าน ดินประสิว ไนโตเจน แสงแดด น้ำฝน ลูกเห็บ น้ำปูนใส แอลกอฮอล์ สำลี เกลือแกง ควันธูป ถ่าน คาร์บอนไดออกไซด์ ปูนขาว ออกซิเจน อากาศ ไฮโดรเจน เก้าอี้ แชมพูสระผม สบู่ก้อน
Filed under: หลัก | Leave a comment »
“ก้าวใหม่ของครูไทย ก้าวไปด้วย Social Media” ถ้ากล่าวถึง Social Media ณ วันนี้ ข้าพเจ้าตอบได้และมั่นใจว่า Social Media คืออะไร ใช้อย่างไร เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนหรือไม่ อย่างไร และครูไทยยุคใหม่จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้ Social Media ให้เป็น
ข้าพเจ้า ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและส่งเสริมการใช้ Social Media ในการจัดการเรียนรู้ ตอนที่ส่งใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการก็มีความคาดหวังว่าจะได้รับการคัดเลือกจากสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน แต่เครื่องมือที่ทางสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนให้กรอกในใบสมัครนั้น เป็นเครื่องมือที่ไม่เคยใช้เลย ข้าพเจ้าก็สุ่มสมัคร โดยเลือกสมัคร Twitter และ Facebook ก่อน เพราะ มันคุ้นหูกว่าตัวอื่นๆ ส่วนเครื่องมืออื่นๆก็มาทำการสมัครอีกครั้งหลังจากที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ซึ่งทาง สทร. ให้ทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกกรอก url ของตนเอง และเป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้ใช้ google doc เมื่อได้รับการอบรมการใช้เครื่องมือต่างๆจากทีมงานวิทยากรที่มีประสบการณ์ ถึงแม้ว่าจะมิใช่วิทยากรในสายการศึกษา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง ครู SMEdu ก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และชื่นชมเป็นพิเศษ คือ คุณเก่ง เจ้าของ เก่งดอทคอม ผู้ให้ความรู้ในเรื่องของการทำ Blog จาก WordPress เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้แบบครูมืออาชีพที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง นอกจากนั้นยังได้รับความรู้ในการใช้เครื่องมืออื่นๆอีก คือ Twitter ซึ่งกลับจากการอบรม สิ่งแรกที่ท่านผู้อำนวยการถามว่า Social Media คืออะไร ใช่ที่อดีตนายกเมืองไทยคนหนึ่งใช้ประจำใช่หรือไม่?? Twitter ได้ใช้แล้วรู้สึกว่ามันเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่รวดเร็ว กระชับ ทันที ทุกที่ ทุกเวลา ความรู้จากการใช้ Youtube , SlideShere , Scribd , Flickr และ Facebook เป็นสิ่งใหม่ที่น่าเรียนรู้
|
ในช่วงของการอบรมคิดตามตลอดว่าเราจะนำมาใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างไร จะทำได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้หรือไม่ ทำข้อตกลงร่วมกัน MOU ทำไม่ได้แล้วจะส่งผลถึงใครบ้าง ปัญหาน่าจะมีแน่ๆๆ เป็นกังวลมาก เพราะ เราสอนวิชาฟิสิกส์ ธรรมชาติวิชาต้องมีการคำนวณ แก้โจทย์ปัญหา ซึ่งให้นักเรียนสืบค้น เรียนรู้เอง คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียน เราไม่ใช่ครูคอมพิวเตอร์ เราจะให้นักเรียนได้ใช้สื่อพวกนี้ได้อย่างไร ตารางการใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ก็แน่น มีชั่วโมงว่างบ้าง ตารางสอนวิชาของเราก็ไม่ตรงกัน ให้นักเรียนไปใช้นอกเวลาเรียน นักเรียนก็ต้องเข้าร้านอินเตอร์เน็ต ผู้ปกครองของนักเรียนจะว่าอย่างไร สทร.ให้ไปขยายผลต่อแล้วจะไปขยายผลอย่างไร ที่ไหน เพาเวอร์ของเราคงไม่ถึงแน่นอน
|
เมื่อกลับจากการอบรมได้นำมาใช้กับกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนโต คือ ม.ปลาย ในรายวิชาฟิสิกส์ และชุมนุมวิทยาศาสตร์ เพราะนักเรียนสามารถสืบค้นได้เอง และได้ใช้เครื่องมือที่ได้รับจากการอบรมมาใช้กับกลุ่มนักเรียนชุมนุม จำนวน 15 คน เครื่องมือที่สอนตัวแรก คือ Twitter พบปัญหาคือ ความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่โรงเรียน และนักเรียนใช้แล้วไม่ค่อยใช้ต่อ น่าจะเป็นเพราะเป็นการสื่อสารสั้นๆ แล้วพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะสื่อสารอะไร Facebook เป็นเครื่องมือที่นักเรียนใช้มากจนถึง ณ วันนี้ จากจำนวนแค่ 15 คน ตอนนี้กลายเป็นสังคมที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวางไปเรื่อยๆ ทั้งในโรงเรียน ศิษย์เก่าที่อยู่ต่างที่กัน ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศ และที่ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างมากเลย ถึงแม้จะไม่ได้ขยายผลอย่างเป็นทางการ แต่ Social Media ก็ขยายวงกว้างใน
โรงเรียนเกือบ 100% ทั้งผู้บริหาร ครู และนักเรียนทุกระดับชั้น ถึงแม้ว่าบางครั้งในการใช้จะไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน แต่การทำกิจกรรมหรือการสื่อสารของกลุ่มสังคมออนไลน์ที่เกิดขึ้นก็อยู่ในสายตา ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเลือกใช้เครื่องมือต่างๆที่ได้จากการอบรม คือ Youtube , SlideShere , Scribd , Flickr แล้วนำไปแชร์ไว้ที่ Facebook เมื่อครูท่านอื่นๆพบแล้วสนใจ ก็เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน อีกทั้ง ผู้บริหารเห็นความสำคัญ มีการส่งเสริมและให้กำลังใจตามจังหวะและโอกาส ทำให้ความกังวลที่เกิดขึ้นลดน้อยลงและมีความมั่นใจในการใช้ Social Media มากขึ้น
ท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณ สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ขอบคุณวิทยากรที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ Social Media ขอบคุณครู SMEdu ที่แชร์และแบ่งปันข้อมูลผ่าน Social Media “ก้าวต่อไปครูไทย Social Media พาก้าวไป สู่ก้าวใหม่ของการศึกษาไทยในยุคไทยที่ก้าวหน้า”
Filed under: ไม่มีหมวดหมู่ | 1 Comment »
ให้นักเรียนศึกษาบรรยากาศที่ปกคลุมผิวโลก ในประเด็น ดังนี้
1. ความหมายและองคืประกอบของบรรยากาศ
2. การแบ่งชั้นบรรยากาศ
3. ความสำคัญของบรรยากาศและอากาศ
แล้วให้นักเรียนทำกิจกรรม ดังนี้
1. เขียนแผนภาพไดอะแกรม (The Venn Diagram) แสดงองคืประกอบที่เหมือนกันและต่างกันของอากาศชื้นและอากาศแห้ง ดังนี้ คลิกทำใบงาน
2. ให้นักเรียนเขียนแผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความสูง และคุณสมบัติด้านต่างๆของชั้นบรรยากาศแต่ละชั้น คลิกดูตัวอย่างผลงาน คลิกทำใบงาน
3. ให้นักเรียนวิเคราะห์และอธิบายผลที่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีอากาศตามหัวข้อที่กำหนดให้ คลิกทำใบงาน
***นักเรียนที่มีความพร้อมให้ส่งงานทาง e-mail ของครู yupawon@hotmail.com หรือส่งงานทาง Facebook หรือให้นักเรียนรับใบงานจากครูผู้สอนแทน แล้วส่งใบงานที่โต๊ะครูยุพวรรณ ตรีรัตน์วิชชา ก็ได้นะคะ
Filed under: หลัก | Leave a comment »
ข้อที่ 1 : พกปากกาสี 12 สี ติดตัว
ทฤษฎีสี กล่าวไว้ ว่า สีจะสามารถเพิ่มการจดจำเนื้อหาต่าง ๆ ได้มากกว่า สีน้ำเงินที่เขียนตามปกติ
จึงควรซื้อปากกาสีต่าง ๆ ติดตัวไว้ เวลาอ่านหนังสือก็ใช้ปากกาสีในการจดเนื้อหา ของ stabio ก็ดีนะ ทนหลายปีเลยแหล่ะ
* สำหรับคนที่กลัวว่าจะจดไม่ทันก็ใช้วิธีจดเฉพาะเนื้อหาสำคัญพร้อมกับบันทึกเสียงไปพร้อม ๆ กัน แค่นี้ก้อสามารถจดจำได้แล้วล่ะ
ข้อที 2 : ใช้สมุด note ที่ไม่มีเส้น
การใช้สมุดnote ที่มีลายเส้นนั้นเหมือนเราอยู่แต่ในกรอบเส้นนั้น แต่ถ้าใช้สมุดnote ที่ไม่มีเส้นนั้นจะ
ทำให้เราไม่มีกรอบในการเขียน เราอยากเขียนอะไรก็อยากเขียนได้ทั้งนั้น ปัจจุบันหาซื้อยาก ต้องลองหาแถว ร้านขายสมุดวาดรูปดูน่ะ
ข้อที่ 3 : บันทึกงานออกมาในรูป Mind Map Or Pic.
ถ้าเราอ่านหนังสือการ์ตูนตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว กับอ่านหนังสือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะสามารถจดจำ
การ์ตูนได้มากกว่า เวลาจดเนื้อหาบางอย่างอาจจะจดในรูปแบบ Pic. จะสามารถจดจำได้มากกว่า
การบันทึกงานในรูปแบบของ mind Map จะเป็นการแบ่งเรื่องหัวข้อใหญ่ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการอ่าน อาจใช้ mind map เป็นรูปก็ได้
ข้อที่ 4 : Mp3
เราควรจะมี mp3 เพื่อใช้ในการบันทักเสียงเวลาที่คุณครูสอนแต่ไม่สามารถฟังและเก็บเกี่ยวเนื้อหาได้ครบทุกอย่าง
หากเราอัดไว้ก็จะสามารถย้อนกลับไปฟังได้ หลาย ๆ ครั้ง ก่อนสอบ
ข้อที่ 5 : เอาใจครู อ่านเพิ่มเติม
Filed under: หลัก | Leave a comment »
1. อ่านหนังสือตอนเช้าๆ จะช่วยในการจดจำได้เยอะเพราะว่าตอนเช้าสมองของเราปลอดโปร่ง ถ้าเทียบกับตอนเย็น หรือตอนดึกๆ เนื่องจากสมองของเราผ่านอะไรมามากมายแล้ว สู้รบปรบมือกันมาทั้งวัน
2. รู้มั้ยว่า การยืนอ่านหนังสือ อ่านเพิ่มเติม
Filed under: หลัก | Leave a comment »